แผนรักใส ๆ ของยัยเพื่อนสนิท

แผนรักใส ๆ ของยัยเพื่อนสนิท ณ มหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงโซลที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม่และดอกไม้หลากสี “ฉันได้เรียนที่นี่จริง ๆ เหรอเนี่ย ” ฉันเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมารายงานตัวเพื่อเป็นนักศึกษาของที่นี่ แล้วสายตาของฉันก็ไปสะดุดกับชายคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวอมชมพู สูงโปร่ง กับชุดนักศึกษาผูกไทต์สีม่วง เสื้อนักศึกษาทำให้เค้าดูดีมาก ฉันมองเค้าแบบไม่ละสายตา แต่แล้วต้องรีบหันหน้าหนีทันที เมื่อจู่ ๆ เค้าก็เดินเข้ามาฉัน “ขอโทษนะครับ พอจะทราบมั้ยครับว่าที่รายงานตัวนักศึกษาทุนอยู่ที่ไหน” “อ๋อ เค้าบอกว่าอยู่อาคาร 4 น่ะ ห้องมัลติมีเดีย รู้จักมั้ยหล่ะค่ะ” “ผมไม่รู้จักครับ ช่วยพาผมไปได้ไหมครับ” “เอ่อ…อ๋อได้สิ เพราะเราก็จะไปเหมือนกาน” นี่ฉันเดินมากับเค้าเหรอเนี่ย มองใกล้ ๆ เค้ายิ่งดูดี มาก ๆ เลย เอ๊ะ ทำไมทุกคนถึงได้มองมาทางนี้หล่ะ ฉันเหลือบไปเห็นว่า ทุกคนที่มองมานั้น มองคนที่เดินไปด้วยกันกับฉันแล้วทำท่าซุบซิบ อ้อ ลืมบอกไปว่าฉันมีผิวค่อนข้างคล้ำ แล้วยังเดินไปกับเค้าอีก เค้าทั้งขาว หน้าตาดี เหมือนทางม้าลายเลยแฮะ ทำไงดีอ่ะ ไม่รู้จะชวนเค้าคุยยังไงดี “เอ่อ…นายชื่ออะไรเหรอ” แบบนี้แหล่ะดีมั้ยนะ ถามไปแล้วนี่ ช่างเหอะ “ชื่อ ฮันจอง ครับ” ยัยคนนี้แปลกคนจังเดินมาตั้งนานทำไมไม่ถามตั้งแต่แรก ถ้าไม่เห็นว่าจะให้พามานะไม่คุยด้วยหรอก เชอะขี้เหร่ชะมัด “ฉันชื่อ…จินอา นะ ยินดีที่ได้รู้จัก (>_<) ” “เฮ้ ยัยจินอา ” เพื่อนฉันที่ชื่อ มาริ ตะโกนเรียกฉัน ฉันวิ่งเข้าไปหาและสวมกอดกับมาริ “ฉันคิดถึงเธอจังเลย ปิดเทอมเป็นยังไงบ้าง ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาเรียนที่นี่ซะอีก” “อันที่จริงฉันก็จะไม่ได้มาเรียนที่หรอก” “อ้าวทำไมหล่ะ” “ก็แม่ฉันน่ะสิ ไม่อยากให้ฉันเรียนที่นี่ เธอก็รู้นี่ว่าแม่ฉันเป็นยังไง ต้องเรียนที่หรู ๆ มีผู้ชายรวย ๆ ไง” “นี่จินอา เธอเดินมากับใครน่ะ น่ารักจัง” มาริกระซิบข้าง ๆ หูฉันเมื่อฉันเดินมาหาเค้า “ฮันจอง นี่เพื่อนฉันชื่อมาริ” “เพื่อนเค้าไม่รู้จักที่รายงานตัวน่ะ” “อ้าว…นี่เธอก็ต้องไปรายงานตัวที่นั่นเหรอ” “ใช่ค่ะ มีไรเหรอ” “ป่าว….(-_-) ” ยัยนี่ต้องไปรายงานตัวกับฉันด้วยเหรอเนี่ย เฮ้อ ฮันจองเผลอถอนหายใจออกมา แต่โชคดีที่ยัยสองคนนั้นคุยกันอยู่เลยไม่ทันได้ยิน พวกเรา 3 คนเดินไปรายงานตัวด้วยกันที่ห้องมัลติมีเดีย แต่ว่ามาริไม่ได้ไปรายงานตัวด้วยหรอกนะ แต่ไปเป็นเพื่อนเฉย ๆ เพราะเธอไม่ได้สอบชิงทุนด้วย “มาริ รอฉันแป๊บนึงนะ เดี๋ยวฉันมา” “ฮันจองเราเข้าไปรายงานตัวกันเถอะ” หลังจากรายงานตัวเสร็จฉันก็เดินออกมาหามาริ พากันเดินไปคุยไปโดยมีนายฮันจองเดินตามมาด้วยจนคุณพ่อฉันมารับกลับบ้านไป อีก 1 อาทิตย์กว่าจะเปิดเทอม ฉันจะทำไรดีนะ ฉันนั่งคิดนอนคิดและแล้วใบหน้าของฮันจองก็ลอยเข้ามาในหัวของฉัน ใบหน้า ผิวขาว ๆ ถ้าเราเป็นแฟนกันก็ดีซินะ ฉันจะต้องเป็นแฟนกับหมอนั่นให้ได้ ฉันคิดไปเรื่อย ๆ และต้องแปลกใจกับความคิดของตัวเอง “จะบ้าเหรอ เพิ่งรู้จักเองนะ แล้วอีกอย่างอยู่ห้องเดียวกันก็ต้องเป็นเพื่อนกันสิ ถึงจะถูก” ฉันเผลอหลุดปากออกมา “ลูก…จินอาคุยกับใครน่ะ” แม่ของฉันเอง สงสัยจะได้ยินเสียงฉันหล่ะสินะ “ไม่มีอะไรค่ะแม่ แค่เผลอพูดออกมาเฉย ๆ ค่ะ แฮะ ๆ” หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ฉันตื่นตั้งแต่ไก่โฮ่ ตื่นเต้นจังเลยที่จะได้ไปมหาลัย แล้วอีกอย่าง จะได้เจอนายนั่นด้วย คิดถึงหน้าหล่อ ๆ “พ่อค่ะเร็ว ๆ หน่อยสิค่ะ เดี๋ยวหนูไป มหาลัย สายนะค่ะ” ฉันเร่งพ่อให้เร็ว ๆ จะได้ไปส่งฉันที่มหาลัย “จ้า ๆ รีบที่สุดแล้วลูก ตื่นเต้นรึเปล่าฮึลูกสาวพ่อ” “นิดหน่อยค่ะพ่อ” พ่อฉันขับรถมาได้ครึ่งทางแต่แล้วก็เจอใครบางคนเดินออกมาจากหอพักแห่งหนึ่ง เอ๊ะหน้าคุ้น ๆ แฮะ “พ่อจ๋า จอดก่อนได้มั้ยค่ะ รับเพื่อนหนูไปมหาลัยด้วยคนได้มั้ยค่ะ” “เพื่อนคนไหนน่ะ พ่อไม่เคยเห็นลูกรับเพื่อนไปด้วยสักที” “อ๋อ … เปล่าค่ะพ่อ เพื่อนใหม่เพิ่งรู้จักกันน่ะค่ะ พอดีเห็นเค้าเดินมา สงสัยจะไปมหาลัยน่ะค่ะ” “ไหนหล่ะจินอา คนไหนลูก”' “นั่นไงค่ะ พ่อ ” ฉันเปิดประตูรถวิ่งไปหาฮันจองซึ่งเดินไปเรื่อย ๆ “ฮันจอง นายจะไปไหนเหรอ ไปมหาลัยรึเปล่า” ฮันจองพยักหน้าหงึก ๆ (-_-) (_ _)(-_-) ฉันก็เลยชวนฮันจองไปมหาลัยด้วยกัน ฉันมาถึงมหาลัย ซึ่งมีตึกน้อยใหญ่มากมาย ฉันเปิดประตูลงจากรถและขอบคุณพ่อที่มาส่งฉันในวันนี้ “อ้าวนั่นยัยมารินี่ มาริ ..มาริ ” ฉันตะโกนเรียกมาริ จนมีคนในมหาวิทยาลัยมองมาที่ฉัน “มาแล้วเหรอ ทำไมมาด้วยกันหล่ะเนี่ย” “ไม่มีอะไรหรอก บังเอิญเจอกันเลยรับมาด้วย” “เอ่อ มาริ จินอา ได้ตารางสอนกันหรือยัง ผมได้มาแล้วจะจดไหม” จู่ ๆ ฮันจองก็พูดแล้วยื่นสมุดตารางสอนมาให้ฉัน ฉันจึงรับสมุดมาแล้วถือไว้ แล้วค่อยจดหล่ะกัน “อืม ขอบใจนะ” ในห้องเรียนมีเสียงนักศึกษาคุยกันจอแจ เสียงดังจังเลย ออกไปนั่งข้างนอกดีกว่า รออาจารย์มาแล้วค่อยเข้าไปดีกว่า ว้าว (0๐0) ข้างนอกสวยจังเลยวิวดีจัง มีแต่สีเขียวของต้นไม้ “เอ๋ นั่น ฮันจองนี่นา” “ฮันจอง มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้” “ข้างในเสียงดัง ผมไม่ชอบน่ะ” “อืม” ฉันเดินไปและนั่งลงข้าง ๆ นายฮันจองและแอบจ้องหน้าหมอนั่นตลอดเวลาจนหมอนั่นหันหน้ามามองฉันโดยที่ฉันหลบไม่ทัน จึงสบตากันอย่างจัง ทำให้หน้าฉันแดงมาก “ไม่สบายรึเปล่า ผมพาไปห้องพยาบาลไหม น่าจินอาแดงจัง” แล้วฮันซองก็ยกมือขึ้นมาจับที่หน้าผากของฉันเพื่อตรวจดูว่าฉันตัวร้อนหรือเปล่า “เอ่อ … เอ่อ ไม่ได้เป็นไรหรอก สงสัยฉันนั่งตากลมมากไปหน่อยน่ะ ” “อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เข้าห้องเรียนเถอะอาจารย์คงใกล้จะมาแล้ว” “อืม จ๊ะ” โอ้ย ทำไมหน้าต้องมาแดงตอนนี้ด้วยน้า อ๊าย ๆๆๆ เค้าทำไมใจดีกับฉันจังเลยนะ สงสัยฉันจะชอบหมอนั่นแล้วหล่ะสิ ฉันคิดไปก็เดินตามหลังหมอนั่นเข้าไปในห้องเรียน แล้วก็นั่งข้าง ๆ กันด้วย โอ๊ย หัวใจฉันจะละลาย หลังเลิกเรียนฉันเลยชวนเค้ากลับบ้าน นั่นแหล่ะแผนการรักของฉันหล่ะ ฉันต้องทำให้เค้ารักฉันให้ได้ เอ้จะทำไงดีเนี่ย ฉันอยากรู้จังว่าเค้าคิดยังไง อืม….. ทำไงดีน้า!!! อ๋อนึกออกแล้ว ไม่ดีกว่า ๆ ดู ๆ ไปก่อนดีกว่า บางทีหมอนั่นอาจจะดีกับทุกคนก็ได้ “เอ่อ ฮันจอง เลิกเรียนแล้วนายกลับบ้านยังไงเหรอ” “ก็ขึ้นรถโดนสารไง” “กลับด้วยกันไหม ทางเดียวกัน ไปด้วยกันก็ได้” “อืม” ดู ๆ ไปแล้วยัยนี่ก็เป็นคนดีกว่าที่คิดแฮะ น่ารักดีเหมือนกัน พ่อขับรถมารับแล้ว ฉันเรียกฮันจองไปขึ้นรถ จู่ ๆ หมอนั่นก็สวัสดีคุณพ่อของฉันเฉย เลย “สวัสดีครับคุณพ่อ เมื่อเช้าผมรีบเลยไม่ได้ขอบคุณที่คุณพ่อกรุณารับผมติดรถมาด้วย ผมขอบคุณนะครับ” “ไม่เป็นไรหรอก เป็นเพื่อนกับลูกสาวของพ่อก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว” “เอ่อ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยครับ ผมชื่อ ฮันจองครับ เรียนห้องเดียวกับจินอาครับ” “ว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวหาจินอาสิ จินอาน่ะ อยู่บ้านคนเดียวบ่อย ๆ คงเหงาน่าดู” “พ่อค่ะ หนูไม่เหงาหรอกค่ะ” “ได้ครับว่าง ๆ ผมจะไปเที่ยวหา” หมอนี่ทำไรน่ะ อยู่ ๆ ทำไมถึงมาขอบคุณพ่อฉันอย่างนั้นล่ะ แถมแนะนำตัว เขาเป็นคนสุภาพจังเลย แต่เอ๋ จะไปเที่ยวหาฉันด้วย ว้าว ฉันชอบเค้าจังเลย อย่างนี้มีลุ้นนะเนี่ย อิอิ ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวโดยไม่รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนนั่งมองฉันอยู่ ที่หอพัก ผมเดินขึ้นมาที่ห้องพัก แล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ยัยนั่นน่ารักดีแฮะ ตลกดี แต่ก็เป็นแค่เพื่อนทำไมผมต้องคิดถึงเค้าด้วยเนี่ย ใช่แค่เพื่อนเอง และในไม่ช้าเราสองคนสนิทกันจนไปไหนก็ไปด้วยกัน ไปมหาลัยด้วยกันทุกวัน ออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันทุกวัน โดยที่ฉันต้องไปรับหมอนั่น เพราะหมอนั่นไม่มีรถ และนี่ก็เป็นแผนของฉันอีกนั่นแหล่ะ ที่จะได้เจอเค้าทุกวัน ทำตัวเป็นคนดีที่น่ารักของหมอนั่น เค้าจะได้หลงรักฉันบ้าง อิอิ แล้วอีกอย่างใกล้ ๆ กับหอพักไม่มีอาหารให้กินด้วย ฉันก็เลยอาสาพาเค้าไปเอง แล้วเรื่องพ่อกับแม่ฉันเค้าก็ไม่ว่าอะไรนะที่เราสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลย “เอ่อ การบ้านที่อาจารย์สั่ง จินอาทำเสร็จรึยัง” จู่ ๆ เค้าก็ถามขึ้นมา “ยังไม่ได้ทำเลย มันยากน่ะ คือ… ฉันหัวสมองช้าน่ะ แฮะ ๆ” “จะส่งพรุ่งนี้แล้วนะ จินอา” “อ้า (>0<) จริงเหรอ ทำไงดี ๆ ยังไม่ได้ทำเลย การบ้านที่อาจารย์สั่งอันนั้นก็ยังไม่ได้ทำ อันนี้อีก โอ๊ยตายแน่เลย (T-T) ฮือๆ” ฉันนั่งกุมขมับ และนั่งคล่ำครวญ ขณะที่กำลังทานข้าวที่ร้านอาหารกับหมอนั่นอยู่ หมอนั่นนั่งจ้องหน้าฉันแล้วก็หัวเราะ เสียงดัง จนคนในร้านมองมา “หัวเราะทำไมเนี่ย ฉันซีเรียสนะ ฮึ” “ของผมทำเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมทำให้ก็ได้” “(-_-) จิงเหรอ” “อืม” “โอ้ พระเจ้าของฉัน ดีจังเลย ขอบใจนะ ฉันเลี้ยงข้าวเต็มที่เลย มีปัญหาอะไรปรึกษาฉันได้ ยกเว้นเรื่องเรียนนะ ” “พอเลย ๆ ทีเงี้ยประจบเชียวนะ จินอา ” ฉันลืมบอกไปว่านายฮันจองอะไรเนี่ย เก่งและฉลาดไปทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา การเรียน การสร้างสรรค์ศิลปะ แล้วจะไม่ให้ฉันหลงรักหมอนั่นได้ไง กริ้ง ๆ เช้าแล้วเหรอ ใครเนี่ยโทรมาแต่เช้าเลย “ฮัลโล จินอา ตื่นรึยัง” เอ๋ ฮันจองนี่หน่า ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียง ว้าย ๆ และสุดท้ายฉันก็ลงไปกองอยู่ข้างล่าง “อูย” “จินอา เธอเป็นอะไรรึเปล่า เสียงอะไรน่ะ ” “อ๋อ ป่าว ไม่มีไรหรอก โทรมาแต่เช้าเลยมีอะไรรึเปล่า” “ป่าวแค่จะโทรมาถามว่า ตื่นรึยัง เท่านั้นแหล่ะ เผื่อเธอจะตื่นสาย” “อ้าวเหรอ อืม ตื่นแล้วหล่ะ แต่เหมือนว่ารู้สึกไม่ค่อยดีเลย” ฉันแกล้งพูดกลบเกลื่อน “เป็นอะไรรึเปล่า ไปหาหมอไหมเดี๋ยวฉันไปหาที่บ้าน จะได้พาไปหาหมอ” “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันออกไปหานะ ขอเวลาแป็บนึง” คือว่าวันนี้ต้องไปมหาลัยแต่เช้าเพราะมีกิจกรรมน่ะ เอ แต่ว่าทำไมวันนี้ ฮันจองแปลก ๆ นะ อยู่ ๆ ก็โทรมาปลุก วันนี้ฉันจะต้องแกล้งไม่สบายสักหน่อย เค้าจะได้ดูแล ดูซิว่าเค้าจะเป็นห่วงฉันไหมเอ่ย แผนนี้จะสำเร็จไหมน้า ต้องลอง เฮ้ย นั่งคิดอยู่ได้สายแล้ว ๆ ไปอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวไปไม่ทันจะโดนว่าเอา “มาแล้ว ๆ ฮันจอง แคก ๆ” “เนี่ยนะที่บอกว่าไม่เป็นอะไร ไอใหญ่เลย” “ต้องไปหาหมอแล้วนะ เย็นนี้ฉันจะพาเธอไปหาหมอ” “เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ฮันจอง นายมียาแก้ไอไหม เหรอไม่ก็ยาแก้ปวดหัวก็ได้ ฉันรู้สึกปวดหัวน่ะ” “อืมเดี๋ยวนะ เดี๋ยวหายาให้” “จ้า (-_-) ” หน้าฉันตอนนี้ต้องแดงมากแน่ ๆ เลยรู้สึกร้อนจัง “มาแล้ว หน้าเธอแดงจังเลย มีไข้เหรอ” “นิดหน่อยน่ะ” “ นอนพักที่ห้องฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันโทรไปบอกอาจารย์ให้ ” “ไม่เป็นไร แล้วนายจะไปยังไงหล่ะ” “เดี๋ยวฉันจะบอกอาจารย์ว่าฉันจะพาเธอไปหาหมอ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง” หมอนี่เป็นห่วงเราจิง ๆ ด้วย แผนการนี้สำเร็จ 555+++ “ขอบใจนะ” “ไม่เป็นไรหรอก ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่” เพื่อนเหรอ นี่หมอนั่นคิดกับเราแค่เพื่อนเหรอ ไม่จิงหรอก ถ้าคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันทำไมเค้าถึงทำดีกับเราจังเลย รู้สึกผิดหวังจังเลยที่หมอนั่นพูดแบบนั้นออกมาด้วย ฉันต้องคิดแผนการพิสูจน์ให้ได้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกับฉัน แต่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ ฉันอยากบอกหมอนั่นจังเลยว่าฉันน่ะชอบเค้าตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ทำไงดีน้า อืมเอาอย่างนี้แล้วกัน เช้าวันอังคารเราสองคนก็ไปมหาลัยด้วยกันตามเคย แต่ที่แปลกไปคือตัวฉันที่นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จาอะไร จนหมอนั่นนั่งมองฉันในรถมาตลอดทาง แต่เค้าทำอะไรมากไม่ได้เพราะ พ่อฉันมาส่งที่มหาวิทยาลัย พอลงจากรถเรียบร้อยแล้ว หมอนั่นก็เริ่มตั้นตั้งคำถามกับฉันอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรรึเปล่า วันนี้ทำไมเงียบจัง” ฉันแกล้งทำเป็นเดินเหม่อลอย รึว่าเหม่อลอยจิง ๆ ก็ไม่รู้ เพราะว่า ฉันเกือบเดินชนเสาไฟฟ้าแน่ะ แต่มีใครบางคนที่อยู่ข้าง ๆ ดึงฉันออกมาได้ทัน “เป็นอะไรน่ะ เหม่อลอยจังเลย เดินจะชนเสาอยู่แล้วเนี่ยเห็นไหม ไม่สบายรึเปล่า รึว่ามีเรื่องไม่สบายใจ” หมอนั่นก็ เป็นห่วงเรานี่ ทำไมยังบอกว่าเป็นเพื่อนกันอยู่อีกนะ แต่แล้วจู่ ๆ เค้าก็เอามือมาแตะที่หน้าผากฉันจนทำให้ฉัน สะดุ้งเลย “เฮ้ย นายทำอะไรน่ะ” “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ” “หิวข้าวรึเปล่า รึว่าเป็นไร บอกหน่อยได้มั้ย ฉันเป็นห่วงเธอนะ” “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” หมอนั่นเลยเดินจูงมือฉันไปที่โรงอาหาร จัดแจงซื้อข้าวมาให้ฉันกิน “กินซะ เป็นอะไรเนี่ย” เค้าดูแลเราดีจังเลย นั่นยัยมาริ มาแล้วดีจัง ฉันฉีกยิ้มแต่ก็ต้องรับหุบยิ้มทันที เมื่อมีใครบางคนหันมามองฉัน “ไง จินอา มาด้วยกันทุกวันเลยนะ เป็นแฟนกันเหรอ ฉันเห็นนะ เดินจูงมือกันเข้ามาในนี้ด้วย” “เปล่าซะหน่อย ไม่ได้เป็นแฟน” แต่เอ ทำไมหมอนั่นไม่ปฏิเสธล่ะ ทำไมน้า อยากรู้จัง เดาใจหมอนั่นไม่ถูกเลยแฮะ เดายากจัง เอาไงดี ๆ เงียบไปก่อนล่ะกัน “ไม่มีเรียนกันเหรอ สองคนนี้ ถึงได้มา Sweet กันที่เนี่ยฮะ” “ไม่อยากเรียนหรอกก็จินอาน่ะสิ เป็นไรไม่รู้เนี่ย” “ผีเข้าเหรอ จินอา วัน ๆ ฉันเห็นเธอพูดไม่หยุดเลย ทำไมวันนี้ไม่ค่อยพูดเลย” ยัยเพื่อนคนนี้ช่วยฉันหน่อยก็ไม่ได้ “ไม่ได้เป็นไร แค่เบื่อ ๆ น่ะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันโทรหานะ” “อืม งั้นฉันไปเรียนนะ บาย” “อืม” หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เราสองคนก็เดินออกมาจากโรงอาหาร แต่แล้วต้องเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ฉันต้องมีเลือดออก ก็คนอะไรไม่รู้เซ่อซ่า เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ดันเดินไปสะดุดเข้ากับไม่แหลม ๆ ซึ่งตอนนี้มันทิ่มเข้าไปที่ขาอย่างแรง แล้วฉันก็ดึงมันออกโดยสัญชาตญาณ “โอ๊ย !!! เจ็บจังเลย ฮือ ๆ ” ฉันร้องออกมาเสียงดัง จนทำให้ฮันจองวิ่งเข้ามาพยุงและดูแผลให้ฉัน “เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย โฮ้ เลือดออกใหญ่เลย เดี๋ยวฉันพาไปห้องพยาบาลนะ” แล้วหมอนั่นก็เข้ามาพยุงฉันแต่ คนอย่างฉันเหรอ ถึงเจ็บตัวฉันก็แผนสูงเป็นนะ อิอิ ฉันก็แกล้งทรุดลง ฉันจะคอยดูว่านายจะทำยังไง “เจ็บมากเลยเหรอ มาฉันอุ้มเธอเอง” ห๋า นี่นายจะอุ้มฉันเลยเหรอ ทำไงดี เค้าอุ้มฉันแล้ว “นี่ โดนไม้ทิ่มขา จนเป็นไข้เลยเหรอ หน้าแดงจังเลย” น่ารักเหมือนกันนะยัยนี่หน้าแดงทุกทีเลยสิ เราจะต้องแกล้งยัยนี่บ้างแล้ว “ดูตัวก็เล็ก ๆ ทำไมหนักจังเลยหล่ะ” 555+++ หน้ายิ่งแดงไปใหญ่เลย และแล้วก็ถึงห้องพยาบาล ฉันอยากให้ห้องพยาบาลไกลกว่านี้จังเลย จะได้อยู่ในอ้อมกอดของหมอนี่นาน ๆ “อาจารย์ครับ เพื่อนผมได้รับบาดเจ็บ ช่วยมาทำแผลให้หน่อยนะครับ” ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้นด้วยเนี่ย แล้วจะไม่ให้ฉันคิดอะไรกับนายได้ยังไงเนี่ย ฉันรักหมอนั่นแบบเต็ม ๆ เลย พอแล้วเอาเป็นว่าฉันจะบอกรักเค้าดีมั้ยน้า โทรไปปรึกษายัยมาริดีกว่า หลังเลิกเรียนหมอนั่นมาส่งฉันที่บ้าน แล้วพูดกับฉันว่า “พักผ่อนเยอะ ๆ นะ จะได้หายไข้ไว ๆ หน้าเธอแดงบ่อยมากเลยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาหา” “อืม จ้า กลับหอดี ๆนะ” แล้วหมอนั่นก็กลับหอพักไป ฉันก็เลยโทรไปปรึกษากับยัยมาริ “ฮัลโล มาริ ฉันมีเรื่องจะปรึกษา แล้วแกต้องให้คำตอบฉันด้วยว่าดีหรือไม่ดี” “มีเรื่องอะไรจะปรึกษาฉันเหรอ จินอา ร้อยวันพันปีไม่เห็นเธอจะโทรหาฉันสักที” “มาริ เอ่อ … คือว่า ฉันว่าฉัน…ชอบหมอนั่นเข้าและหล่ะ” “ใครหล่ะ หมอนั่นของแกน่ะ” “แกรู้แล้ว แกยังจะมาแกล้งฉันอีกนะ” “ฉันรู้แล้วว่าแกต้องชอบฮันจอง ฉันก็คิดว่าเค้าก็ชอบแกเหมือนกันนะ” “จิงเหรอ แต่หมอนั่นบอกว่าเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันถึงได้เป็นห่วงฉัน” “แกคิดว่าฉันควรจะบอกหมอนั่นดีไหม” “ฉันว่าอย่าเพิ่งเลย ดูให้แน่ใจก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” แล้วฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้มาริฟัง มาริจึงบอกให้ฉันสารภาพรักกับหมอนั่นไปเลย “ฉันกลัวเค้าปฏิเสธฉันอ่ะ ” “แกกลัวเหรอ ถ้าแกอยากรู้ความจิงแกต้องกล้ายอมรับคำตอบที่มันจะตามมา แกทำได้ไหม” ฉันคิดอยู่อึดใจและตอบกับมาริไปว่า “ตกลงพรุ่งนี้ฉันจะสารภาพรักกับหมอนั่น” “ขอบใจมากนะเพื่อนรัก” “ไม่เป็นไรหรอก เอ่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะฉันง่วงแล้ว” “จ้า บาย ” หมอนั่นมาหาฉันแต่เช้าเลยแต่ก็ต้องเจอพ่อฉันก่อนล่ะนะ พ่อฉันไม่เคยให้ใครขึ้นมาที่ห้องฉันสักครั้ง “อ้าว มาหา จินอาเหรอ ตื่นรึยังไม่รู้” “ให้ผมขึ้นไปหาจินอาได้ไหมครับ” “อืม ได้สิ” “(-_-) (_ _) (-_-) ขอบคุณครับ” เอ๋ พ่อทำไมทำงี้หล่ะเนี่ย ฉันคิดในใจ แต่แล้วหมอนั่นก็มาเคาะประตูห้องแล้วล่ะ “จินอา ตื่นรึยัง ฉันมาหาแล้ว” “เข้ามาเลยตื่นแล้ว พ่อฉันปล่อยให้นายขึ้นมาได้ไงเนี่ย นายเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้าในห้องฉัน” ฉันบ่นอุบในขณะที่เค้าก็เดินเข้ามา เอาแล้วไงตอนนี้ฉันอยู่กับหมอนั่นสองต่อสอง ทำไงดี ฉันนึกถึงเรื่องที่คุยกัยมาริเมื่อคืนได้ ฉันจึงตัดสินใจสารภาพรักกับหมอนั่น เอาว่ะสารภาพก็ภาพ ฉันไม่กลัวคำตอบอะไรทั้งนั้น “เอ่อ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” “เรื่องอะไรเหรอ” เค้าพูดพลางเดินมานั่งที่ขอบเตียง ข้าง ๆ ฉัน “นายจะว่าอะไรไหม ถ้า…ถ้า” “ถ้าอะไรล่ะ” “ถ้าฉันจะบอกนายว่า….ว่า… ฉัน….ชอบนายน่ะ” “เอ่อ … ขอโทษนะ” หมอนั่นทำไมพูดแบบนั้นหล่ะ ฉันแทบจะร้องไห้ตรงนั้น แต่ฉันทำไมได้ ศักดิ์ศรี อยู่ไหน จินอา ศักดิ์ศรีของเธอ ฉันบอกกับตัวเอง “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยนะ” “แล้วนายมาทำดีกับฉันทำไมหล่ะ” “ก็เป็นเพื่อนไง เป็นเพื่อนกันทำแบบนั้นไม่ได้เหรอ” แต่แล้วฉันก็ร้องไห้มาต่อหน้าหมอนั่นจนได้ “เอ่อ …ฮึก ฮือ… ไม่เป็นไรนายไปเถอะฉันอยากผักผ่อน” ฉันก็แกล้งทำเป็นนอนหลับไม่ได้สนใจ แต่หมอนั่นเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับฉัน แต่แล้วหมอนั่นก็เดินออกไป ไหนบอกว่าจะไม่ร้องไห้ไง ฮึ ยัยจินอา ไหนว่าฟังคำตอบแล้วจะไม่เสียใจไง เป็นไงหล่ะ หมอนั่นไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลยเหรอ แล้วที่ผ่านมามันหมายความว่าไง ทำดีกับฉันเพราะฉันเป็นแค่เพื่อนน่ะเหรอ ฉันไม่ต้องการ ฮือ ๆ ฮือ (T-T) ฉันนอนร้องไห้จนฉันเผลอหลับไป ทำไมฮะ นายฮันจอง ทำไมเห็นจินอาร้องไห้ต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เข้าใจเลย เราก็แค่เห็นยัยนั่นเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ แต่ว่าทำไมต้องรู้สึกอย่างนี้ด้วย เพื่อนก็คือเพื่อน เช้าวันนั้น ฉันไม่อยากเจอหน้าหมอนั่นเลย ทำไงดี ไม่ไปมหาลัยดีกว่า ฉันไม่รู้จะมองหน้าหมอนั่นยังไงดี เพิ่งถูกปฏิเสธรักมา จะไปมองหน้าหมอนั้นได้ไงกัน แล้วหมอนั่นจะไปมหาลัยยังไงหล่ะ อืม ไปก็ได้ ก็ช่วยไม่ได้นี่ รักไปแล้วก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา “มาแล้ว ” ทำไงดีจะพูดเรื่องเมื่อวานรึว่าทำเป็นเฉยดีน้า ทำไงดี ทำเฉยล่ะกัน “เอ่อ เรื่องเมื่อวานขอโทษด้วยนะ ไม่ต้องใส่ใจหรอกนะ ถือว่าฉันไม่ได้พูดล่ะกัน” จินอา ทำไมใจไม่ตรงกับการกระทำเลยไหนบอกว่าจะเฉย ๆไง โอ๊ย “ช่างเถอะ ไปมหาลัยเลยไหม” เรานึกว่าจินอาจะไม่มาหาเราแล้วนะเนี่ย เพิ่งปฏิเสธไปเมื่อวาน ทำไมรู้สึกแบบนี้อีกแล้วนะ ทางด้านของจินอาก็ไม่แพ้กันเลย ต้องตัดใจแล้วล่ะจินอา หาคนใหม่เถอะ กรี๊ง ๆ “เอ๋ เบอร์ใครเนี่ย ฮันจองนายรู้จักเบอร์นี้ไหม” “ไม่รู้จักเลย” “เหรอ อืม สวัสดีค่ะ ใครค่ะ” “คือว่าผมเป็นคนที่แอบมองคุณจินอามาตั้งนานแล้วอ่ะ ผมอยากคุยกับคุณ” “แล้วคุณชื่ออะไรค่ะ” “ผมชื่อ คาซึยะ ครับ” “อ๋อค่ะคาซึยะ” หมอนี่มาได้จังหว่ะเลยแฮะ กำลังต้องการใครสักคนเพื่อให้ลืมหมอนั่นอยู่พอดีเลย ลองทดสอบหน่อยดีกว่าว่าถ้าเราคุยกับคาซึยะทุกวันหมอนั่นจะรู้สึกยังไง “ค่ะ แล้วรู้เบอร์เราได้ไงเหรอ” “ผมไปสืบมา เอาเป็นว่าหาได้ล่ะกัน ผมโทรมาคุยอีกได้มั้ยครับ” “อ๋อ ได้สิ จะโทรมาเมื่อไรก็โทรมาเถอะค่ะ” “เอ่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ผมมีเรียนน่ะครับ ว่าง ๆ ผมจะโทรหาอีกนะครับ” “อืม ค่ะ บายค่ะ” แล้วทำไมหมอนั่นต้องจ้องหน้าเราขนาดนั้นด้วยล่ะ หึงเหรอ ไม่หรอก เลิกคิดซะ จินอา เพิ่งโดนปฏิเสธยังไม่พอรึไง “ใครโทรมาเหรอ” อยู่ๆ ฮันจองก็ถามขึ้นมา “คาซึยะน่ะ เค้าโทรมาหา” “ใครคือคาซิยะ” “ไม่รู้เหมือนกัน เค้าบอกว่าอยากคุยด้วยก็เลยโทรมา มีไรเหรอ” เอาอีกแล้ว เข้าแผน หลังจากนั้นนาย คาซิยะก็โทรมาหาฉันทุกวันเลย แต่ทำไมหมอนั่นต้องมองมาหาฉันตลอดเลย เดินไปที่ไหนก็ต้องตามด้วย แถมนายคาซิยะอะไรนั่นก็ฝากทั้งของกิน ตุ๊กตาบ้างล่ะ ดอกไม้บ้างล่ะ จนหมอนั่นเริ่มจะมีปฏิกิริยา “เอามาให้ทุกวันไม่รู้สึกเปลืองเงินบ้างหรือไง บ้านมันรวยนักเหรอ” “ฮันจอง นายว่าใครน่ะ” “ก็นายคาซิยะอะไรนั่นของเธอนะ ไม่กลัวเปลืองเงินโทรศัพท์ เปลืองเงินซื้อของบ้างรึไง” “ก็เค้าซื้อมาให้ฉันเองนะ” แล้ววันนั้นทั้งวัน หมอนั่นก็อารมณ์เสียตอลดเลย ใครทำอะไรไม่ถูกใจก็หงุดหงิด เวลานายคาซิยะโทรมาหาฉันทีไรก็ต้องหงุดหงิดตลอดเลย ทางด้านจิตใจของฮันจอง นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย เห็นไอ้นายคาซิยะโทรมาหา จินอาทำไมต้องรู้สึกหมั่นไส้ อยากจะต่อยหน้าไอ้หมอนั่นจังเลย ก็ไหนบอกว่าจินอาเป็นเพื่อน แค่นี้ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ เฮ้อ และแล้วหมอนั่นก็ไม่คุยกับเราเหมือนทุกที แถมยังทำตัวห่างเหินอีกต่างหาก ทีนี้เราจะทำไงล่ะ เออ เอาแบบนี้แล้วกัน เดินไปคุยใกล้ ๆ ดีกว่า ผิดปกติแล้วนะเนี่ย อย่างนี้ เค้าต้องชอบเราแน่ ๆ เลย ต้องแกล้งซะให้เข็ด รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปซะแล้ว “เอ่อ ค่ะ ว่าไง คาซิยะ วันนี้จะชวนไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่า” “นี่เดี๋ยวนี้นัดออกไปเจอกันแล้วเหรอ” “ก็มีบ้าง” “แล้วทำไมไม่เคยบอกฉันเลยล่ะ” “ก็แล้วทำไมต้องบอกด้วยล่ะ นายไม่ได้สนใจฉันนี่” “ใครบอก ล่ะ ” “อะไรนะ ฉันได้ยินไม่ค่อยถนัด” “เปล่าไม่มีอะไร หูฟาดรึเปล่า” นี่ฮันจองนายคิดอะไรอีกเนี่ย ไหนบอกว่าไม่ชอบไง เพื่อน คิดไว้ ว่าแค่เพื่อน จินอาเธอจะเอาไงต่อดี เอาแผนนี้ดีกว่า ให้หมอนั่นกลับบ้านเองดีกว่า “เอ่อ… วันนี้นายกลับบ้านเองนะ ฉันมีนัดน่ะ” “นัดกับใคร” “อ๋อคาซึยะน่ะ” “เค้าชวนไปเที่ยว” “พ่อเธอรู้เรื่องรึเปล่า” “อ๋อ พ่อฉันไม่ว่าหรอก เดี๋ยวโทรไปบอกพ่อเองนะ ไม่ต้องห่วง” “อืม เดี๋ยวฉันกลับบ้านก่อนแล้วกัน” ทำไมจินอาต้องไปเที่ยวกับนายคาซิยะอะไรนั่นด้วยล่ะ เค้าไม่เคยให้ฉันกลับหอเองสักที โอ๊ย ไม่คิดแล้วปวดหัว เช้าของอีกวันฉันก็โทรไปบอกนายฮันจองว่า วันนี้ไม่ไปรับนะ “ฮัลโล เอ่อ ฮันจอง วันนี้ฉันไปรับไม่ได้นะ พอดีว่า คาซึยะจะมารับที่บ้านน่ะ” “อืม” ที่มหาลัย อาจารย์ที่สอนวิชาเอกของฉันเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “อ้าววันนี้นักศึกษาต้องทำงานกลุ่มนะกลุ่มละ 2 คน เขียนชื่อกลุ่มแล้วเอามาส่งครู” ฉันจัดแจงเขียนรายชื่อฉันกับฮันจองแล้วนำไปยื่นให้อาจารย์ “จินอา เธอไปทำคนเดียวได้มั้ย ฉันรู้สึกไม่สบายน่ะ” “ เหรอ เออ ได้สิ ฉันให้คาซึยะมานั่งเป็นเพื่อนที่ห้องสมุดก็ได้” “อืม งั้นฉันไปห้องพยาบาลนะ” “อืม” หมอนั่นเป็นอะไรเนี่ย เงียบจัง รึว่าจะไม่สบายจริง ๆ “ให้ฉันไปส่งไหม นายไหวไหม” “ไม่เป็นไรไปหานายคาซิยะของเธอเถอะ” อ่อ รุ้แล้วว่าเป็นอะไร เค้าชอบฉันเข้าแล้วล่ะ 555+++ ในที่สุด เทวดาก็ช่วยฉัน ตอบไปแบบนี้ดีกว่า “ จ้า งั้นฉันไม่ไปส่งนายนะ ฉันทำเสร็จแล้วเดี๋ยวไปตามที่ห้องพยาบาล” “อืม” ฮันจอง นายไม่ได้คิดกับจินอาแค่เพื่อนแล้วล่ะ รู้หัวใจแล้ว ฉันทำพลาดไปตั้งแต่แรกที่ไม่รับรักที่จินอา มอบให้ โอ๊ย เซ็ง ทรมานจังเลย ฉันจะบอกรักยังไง ในเมื่อจินอา ก็ไปสนใจไอ้หมอนั่นอีก ฮันจองเดินไปเรื่อย ๆ จน ไปเจอกับเพื่อนที่เคยเดินไปด้วยกันกับนายคาซึยะ เอ๋ เดินไปขอเบอร์โทรศัพท์ไอ้คาซึยะดีไหม เอาว่ะ “เอ่อ ขอโทษนะ นายเป็นเพื่อนกับ คาซึยะใช่มั้ย” “ใช่ มีไรเหรอ” “ผมติดต่อกับคาซิยะไม่ได้น่ะ ผมมีเรื่องจะคุยกับเค้า เรื่องงานน่ะ” “อืมได้สิ” และแล้วผมก็ได้เบอร์โทรของนายคาซึยะมาโทรไปเลยดีมั้ยเนี่ย โทรเลยล่ะกัน “ฮัลโล นั่นเบอร์ของ คาซึยะใช่มั้ย” “ใช่ นายเป็นใคร” “ฉันเป็นเพื่อนกับ จินอาน่ะ” “อ่อ มีอะไร” “ขอถามไรหน่อย นายชอบจินอาจริงเหรอ” “แล้วแกจะทำไม” คาซิยะเริ่มขึ้นเสียง “ฉันถาม ให้แกตอบมาคำเดียว ว่ารักหรือไม่รัก” “แกคิดว่าคนอย่างฉันจะชอบยัยนั่นจริง ๆ เหรอ” “ใครโทรมาค่ะ ที่รัก” “นั่นแกอยู่กับใคร ฮะ คาซึยะ” ฮึย ไอ้หมอนี่มันร้ายมากหลอกผู้หญิงไปวัน ๆ “เรื่องของฉัน อย่ายุ่ง ไม่มีธุระอะไรแล้วใช้มั้ย แค่นี้นะ หมดอารมณ์” แล้วมันก็วางโทรศัพท์ไป ไอ้หมอนี่มันเป็นเสือผู้หญิงนี่ ทำไงดี จินอาตกอยู่ในอันตราย หลังจากนั้นผมก็รีบวิ่งไปหาจินอาที่ห้องสมุดอย่างรวดเร็ว “ แฮก ๆ จินอา แฮก ฉันถามอะไรหน่อยสิ” “หายแล้วเหรอ มีไรล่ะ” “แฮก ….เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก เธอชอบไอ้บ้าคาซึยะรึเปล่า” มาไม้ไหนเนี่ย อยู่ๆ ก็มาถามเรื่องแบบนี้ รึว่าหึงฉัน ก็ได้ฉันจะตอบ “เอ่อ ก็ชอบนะ เค้าออกจะเป็นคนดี น่ารักแล้วก็เอาใจเก่งด้วย” “ไม่ได้นะ ไอ้นั่นมันเป็นเสือผู้หญิง” “นี่นายพูดเรื่องอะไรเนี่ย ฉันไม่เข้าใจ เค้าออกจะเป็นคนดี” “เธอไปชอบผู้ชายเลว ๆ แบบไอ้บื้อนั่นได้ยังไง” “อย่าว่าเค้าแบบนั้นนะ ฉันไม่ชอบ นายเป็นอะไรเนี่ย อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน เลิกพูดเรื่องนี้แล้วกลับบ้านเถอะ” เรานั่งรถกลับบ้านด้วยกันเช่นเคย แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ฮันจองดูเหมือนจะโกรธที่ฉันไปว่าเค้าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัว แรงไปรึเปล่านะ แล้วฉันก็ส่งหมอนั่นที่หอ หมอนั่นเดินลงจากรถโดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย เป็นไรไปเนี่ย รึว่าเค้าจะโกรธ ไม่หรอกมั้ง แผนแค่เนี้ยะยังน้อยไปนะ ที่หอพักของนายฮันจอง นายฮันจองซื้อเหล้ามากินคนเดียว เค้าไม่เคยเป็นคนแบบนี้ ไม่เคยดื่มเหล้าเมายาเลย นี่เราจะทำไงดี จินอาจะโกรธเราไหมเนี่ย เรายุ่งเรื่องส่วนตัวของจินอามากเกินไปรึเปล่า อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างแรง ลมพัดสิ่งต่าง ๆ เข้ามาในห้องของฮันจองที่เปิดไว้ เสียงลมและเสียงฝนกลบ เสียงคนร้องไห้ในห้องนั้นไปโดยปริยาย เหลือแต่เพียงอาการสะอึกสะอื้น ให้เห็น ในที่สุดฮันจองตัดสินใจเดินตากฝนไปยังบ้านของจินอา ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลมาก ก๊อก ๆ “จินอาอยู่ไหมครับ” “อยู่ ใครเหรอ มาหาฉันทำไม เดี๋ยวนะ รอแป๊บนึง” จินอาละมือจากการทำอะไรบางอย่างเพื่อเดินไปเปิดประตูให้คนที่มาเยือน เมื่อเปิดประตูจินอาก็ต้องร้องเสียงหลง เนื่องจากคนที่อยู่เบื้องหน้านั้นสภาพไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำเลย “นายไปทำอะไรมา เปียกหมดเลย อย่าบอกนะว่าเดินมาน่ะ ฝนตกแรงมากนะ เข้ามาข้างในก่อน” เมื่อฮันซองเข้ามาในบ้าน จินอาก็จัดแจงหาผ้าขนหนูมาให้ฮันจอง เพื่อไม่ให้เค้าเป็นหวัด “วันนี้พ่อกับแม่ฉันไม่อยู่นะ ถ้าฝนหยุดนายก็กลับไปเถอะ” “พ่อแม่เธอไปไหน” เมื่อฮันจองพูดฉันก็ได้กลิ่นเหล้าอย่างแรง “นี่นายเป็นอะไรเนี่ย ดื่มเหล้ามาด้วย มีปัญหาอะไร” จินอาฉุคิดได้ว่า หรือเป็นเพราะว่าเรื่องเมื่อเย็นนี้ ไม่นะ ไม่ใช่หรอกหน่า “เธอเลิกยุ่งกับไอ้คาซึยะได้ไหม” “ทำไมล่ะ เค้าก็เป็นคนดีนะ” “เธอไม่รู้เหรอ ว่าหมอนั่นมันเสือผู้หญิง วันนี้ฉันโทรไปหามัน มันอยู่กับผู้หญิง” “เค้าก็อาจจะมีเพื่อนผู้หญิงบ้างก็ได้นี่” “ฮึ เพื่อนที่เรียกว่า ที่รักน่ะนะ” อะไรเนี่ยนี่ฉันโดนหลอกเหรอ ดีนะที่ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคาซึยะ หรือไม่ได้ไปกับเค้าบ่อยนัก ไม่งั้นฉันคงต้อง ว้าย ไม่เอานะ แต่ทำไมเค้าถึงโทรไปหาคาซึยะได้ล่ะ “เพราะเรื่องเมื่อเย็นรึเปล่า” เมื่อฉันพูดกับหมอนั่นก็เห็นว่าเค้าหลับไปแล้ว ฉันเอื้อมมือไปเพื่อที่จะปลุกเค้าให้ขยับมานอนดี ๆ แต่ แล้วฉันก็ต้องตกใจ ในเมื่อตัวเค้าร้อนจี๋เลย “นี่ ฮันจอง ตื่นเถอะ ลุกขึ้นมากินยาก่อนนะ แล้วค่อยนอนต่อ” ฉันปลุกเท่าไหร่เค้าก็ไม่ตื่น ฉันเลยต้องเช็ดตัวให้เค้า กริ๊ง ๆ “ฮัลโล พ่อเหรอค่ะ ฮ้า น้ำท่วมทางกลับบ้าน กลับมาไม่ได้เหรอค่ะ” “ขับรถไปไม่ได้เลยลูก ตอนนี้พ่ออยู่บ้านอา ต้องรอให้น้ำลดก่อนนะ แค่นี้นะพ่อต้องวางแล้ว” “ค่ะพ่อ” ฉันจะทำไงดี หมอนั่นก็ดันไม่สบายอีก “จินอา….จินอา” ฉันได้ยินเสียงนายฮันจองเรียงชื่อฉัน ฉันจึงเดินไปหาเค้า “มีอะไรเหรอ รู้สึกตัวแล้วเหรอ อ้างละเมอนี่หน่า” “จินอาอย่าไปยุ่งกับมัน ฉันรักเธอ ฉันขอโทษนะ ฉันไม่รู้ใจตัวเอง ฉันขอโทษ” ฉันเดินเข้าไปหาแล้วก้มหน้าลงไปมองหน้าหมอนั่น เฮ้อละเมอจิง ๆ แฮะ แต่แล้วหมอนั่นดันคว้าตัวฉันเข้าไปกอด ละเมอออกมาเบา ๆ ว่า “ฉันรักเธอนะ…จินอา” ฉันยอมให้นายฮันจองกอดฉันอยู่อย่างนั้น ขยับเข้าไปใกล้ ๆ กระซิบกับเค้าเบา ๆ ที่หูว่า “ฉันรู้แล้ว รู้ตั้งนานแล้ว ทั้งหมดเป็นแผนรักของฉันเอง เพื่อนสนิทของนายไง” จากนั้นฉันก็ก้มลงจูบที่ปากของนายฮันจองเบา ๆ “ฉันก็รักนะ นายเพื่อนสนิทของฉัน” เช้าแล้ว ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือเราสองคนนอนกอดกันบนโซฟา หมอนั่นตื่นก่อนฉันอีก เมื่อหมอนั่นตื่นขึ้นมาเห็นภาพเหล่านั้นก็อมยิ้มแล้วก็จุมพิษมาที่หน้าผากฉันเบา ๆ “ฉันรักเธอ” และแล้วเราสองคนก็ตกลงเป็นแฟนกัน จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งเลยนะ ในที่สุดแผนรักใส ๆ ของยัยจินอาก็สำเร็จสักที (>_<)

คอมพิวเตอร์

ข่าวการศึกษา

สถิติเว็บไซต์